วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 3

วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561

เวลา 11.30 - 14.30 น.



knowledge (ความรู้)

  • ทบทวนความรู้ เรื่อง พัฒนาการ , การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย , ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย , การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย , การสอนแบบโครงการ
  • แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน คิดหน่วยการเรียนรู้พร้อมทำ Mind Mapping สร้างองค์ความรู้


ทบทวนความรู้จากสัปดาห์ก่อน 

พัฒนาการ หมายถึง ความสามารถของเด็กในแต่ละช่วงอายุ  หรือ ตัวสะท้อนที่บอกว่าเด็กสามารถทำอะไรได้บ้างในแต่ละช่วงอายุ

ลักษณะของพัฒนาการ คือ พัฒนาการจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นลำดับขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง 


มาตรฐาน คือ เกณฑ์ขั้นต่ำ
สภาพที่พึงประสงค์ คือ ความคาดหวังที่ต้องการให้เด็กสามารถทำได้ 


เพียเจต์ ศึกษาที่มาการทำงานของสมองก่อนพัฒนามาเป็นพัฒนาการ โดยกล่าวว่า เด็กเริ่มใช้ประสาทสัมผสทั้ง 5 ในการตอบสนองและเก็บข้อมูลไปที่สมอง จากนั้นเกิดการ ซึมซับประสบการณ์ (Assimilation) >> ปรับโครงสร้างสติปัญญาหรือปรับโครงสร้างความรู้ใหม่ (Accommodation) >> (ความรู้ที่ได้รับไม่แสดงออกหรือไม่เกิดการเปลียนแปลง คือ เด็กเกิด "การรับรู้" แต่ถ้าเด็กมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แสดงว่าเด็กเกิด "การเรียนรู้" >> เด็กเกิดการเรียนรู้เพื่อการอยู่รอดในชีวิต

*ครูควรจัดประสบการณ์ให้เหมาะสมกับพัฒนาการเด็ก*

ความสนใจและความต้องการมาพร้อมกับพัฒนาการ เมื่อถึงวัยที่เด็กต้องการทำสิ่งต่างๆนั้นเกิดขึ้นจากพัฒนาการที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นลำดับขั่นตอน

การเรียนรู้  เกิดจากการใช้ประสาทสัมผัส  การมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม  และเรียนรู้จากการถ่ายทอดทางวัฒนธรรม

การสอนแบบโครงการ (Project Approach) หมายถึง การจัดการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่งซึ่งให้ความสำคัญกับเด็ก ส่งเสริมให้เด็กแสวงหาคำตอบจากการเรียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มลึกเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยที่เด็กหรือครูร่วมกันกำหนดเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ แล้วดำเนินการแสวงหาความรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหา โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและจากแหล่งเรียนรู้

วิธีการจัดการเรียนการสอน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงการ เด็กร่วมกันคิดเรื่องที่สนใจที่อยากเรียนเมื่อเลือกแล้ว ทำร่องรอยการเรียนรู้ต่างๆ เช่น การถามประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับเรื่องที่เรียน / คำถามที่เด็กอยากรู้ และค้นคว้่หาคำตอบ เช่น การไปสืบค้นห้องสมุด การไปทัศนศึกษา / ให้เด็กวาดภาพเชื่อมโยงประสบการณ์

ระยะที่ 2 รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่อยากรู้ ค้นคว้าความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เรียน อาจมีการเชิญวิทยากรมาให้ความรู้แก่เด็ก

ระยะที่ 3 สรุปโครงการ เด็กนำเสนอความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เรียน โดยเชิญผู้ปกครองและเด็กห้องอื่นๆมาเป็นผู้รับชมการนำเสนอ

ประโยชน์จากการสอนแบบโครงการ
1. เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างลุ่มลึก
2. ส่งเสริมให้เด็กมีโอกาสที่จะประยุกต์ใช้ทักษะที่มีอยู่
3. เด็กเกิดแรงจูงใจภายในและความสามารถที่เกิดจากตัวเด็กเอง
4. เด็กรู้จักตัดสินใจว่าควรทำอะไร และผู้ใหญ่ยอมรับ   ในความต้องการของเด็ก
5. เด็กจะเห็นคุณค่าของตนเอง เป็นแนวทางให้เด็กพึ่งพาตนเองได้
6. ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้โอกาสได้คิดเรื่องที่สนใจ
7. จัดลำดับการคิดอย่างเป็นระบบ
8. เกิดการเรียนรูแบบบูรณาการ
9. เกิดปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
10. เปิดโอากาสให้เด็กได้ใช้ศักยภาพในการนำเสนอ

  • นำเสนอ Mind Mapping ในหน่วยการเรียนรู้ต่างๆ

Mind Mapping หน่วย ยานพาหนะ


แก้ไขปรับปรุงเนื้อหา


Mind Mappingกลุ่มอื่นๆ 

หน่วยผีเสื้อแสนสวย

 หน่วยตัวเรา

 หน่วยฝนจ๋า

 หน่วย แหล่งน้ำ

หน่วยของเล่น ของใช้

การสร้างองค์ความรู้ด้วย Mind Mapping เพื่อค้นคว้ารวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับหน่วยที่เลือกไปใช้ในการเขียนแผนการจัดประสบการณ์ และจัดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมและครอบคลุม

คำศัพท์ (VOCAB)
Transportation >> ยานพาหนะ 
Butterfly >> ผีเสื้อ
Rain >> ฝน
water resource >> แหล่งน้ำ
Toy >> ของเล่น
Assimilation  >> การดูดซึม
Accommodation>> การปรับสมดุล , ปรับโครงสร้างความรู้

Application (การประยุกต์ใช้)
-การสร้างองค์ความรู้หรือแตกองค์ความรู้ ทำให้ได้รู้ถึงสิ่งที่เราจะสอนในหน่วยการเรียนรู้นั้น และสามารถนำไปเขียนแผนประสบการณ์ได้ง่ายขึ้น และมีเนิ้อหาครอบคลุม

Evaluation (การประเมิน)

Teacher (อาจารย์)
-อาจารย์แนะนำวิธีการทำ Mind Mapping ให้ถูกต้องและสวยงาม ให้คำปรึกษาและอธิบายเนื้อหาที่ควรปรับปรุงแก้ไข

Self (ตนเอง)
-มาเรียนตรงเวลา ตั้งใจทบทวนความรู้ มีส่วนร่วมในการทำงานกลุ่ม 

Friends (เพื่อน)
-เพื่อนแต่ละกลุ่มตั้งใจค้นคว้าเนื้อหาในแต่ละหน่วย และสร้างองค์ความรู้ที่ครอบอคลุม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น